วิชาลิ่วเหยาเป็นวิชาทำนายด้วยเส้นของฉักลักษณ์ซึ่งมาจากคัมภีร์อี้จิงผ่านพื้นฐานของระบบแปดวิหารของจิงฝาง หลอมรวมกับวิชาดวงจีนจนกลายเป็นวิชาทำนายที่มีเอกลักษณ์และความพิศดารขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเมื่อวิชานี้ใช้ฉักลักษณ์ในการทำนาย สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือการตั้งฉักลักษณ์
การตั้งฉักลักษณ์ในวิชาลิ่วเหยา
การตั้งฉักลักษณ์ในวิชาลิ่วเหยานั้น ตามตำราแต่โบราณจะใช้วิธีเหรียญเสี่ยงทายสามเหรียญของจิงฝางในการทำนาย วิธีเหรียญนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากทั้งในวิชาลิ่วเหยาและอ่านคำทำนายด้วยคัมภีร์อี้จิง ซึ่งผมเคยลงรายละเอียดไว้แล้วในบท วิธีเสี่ยงทายด้วยเหรียญในอี้จิง ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้กัน จึงขอให้ศึกษารายละเอียดให้กระจ่างก่อนนะครับ
การใช้สามเหรียญนั้นเป็นวิธีหนึ่งที่สอดคล้องกับหลักวิชาอี้จิง คือเหรียญแต่ละเหรียญมีสองด้าน ซึ่งตรงกับ หยิน-หยาง และสามเหรียญตรงกับ ไตรภพ(ซานไฉ) ซึ่งมี ฟ้า ดิน และคน ผลที่ได้จากเหรียญสามเหรียญนี้จะมีสี่แบบ ซึ่งตรงกับ สี่ลักษณ์ ได้แก่ หยางแก่ หยินแก่ หยางพร่อง และหยินพร่อง และเนื่องจากความสัมพันธ์กับสี่ลักษณ์นี่เอง ทำให้วิธีแบบนี้จะได้เส้นเคลื่อนไหวกี่เส้นก็ได้ หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ครับ ฮี่ๆ
ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามหลักวิชาและเป็นการให้ความเคารพต่อเจ้าของวิชา ผมแนะนำว่าควรศึกษาวิธีเสี่ยงทายตามหลักการดีกว่าจะไปมั่วหรือคิดขึ้นมาใหม่เอาเองนะครับ (จริงๆต้องบอกว่าขอร้องแหละครับว่าอย่าไปเปลี่ยนแปลงมันเลย นั่นไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่ผมเขียนบทความในเว็บแห่งนี้เลยสักนิด)
เอาล่ะครับ!! สรุปว่าวิธีตั้งฉักลักษณ์ในวิชาลิ่วเหยาจะใช้เหรียญสามเหรียญนะครับ
หลังจากที่ได้ฉักลักษณ์ขึ้นมาแล้ว ก็ให้ทำการใส่รายละเอียดตามหลักวิชาแปดวิหารของจิงฝางเข้าไปครับ โดยเข้าไปอ่านในบทความ ระบบแปดวิหารของจิงฝาง ครับ ซึ่งจะได้ฉักลักษณ์สำหรับทำนายละครับ…จบ…
อ้าว!! งงเหรอครับ ฮ่าๆ งั้นเดี๋ยวผมสรุปให้ตามขั้นตอน พร้อมตัวอย่างนะครับ…
ขั้นตอนการตั้งฉักลักษณ์พร้อมตัวอย่าง
กรุณาเปิดดูบทความ วิธีเสี่ยงทายด้วยเหรียญในอี้จิง และ ระบบแปดวิหารของจิงฝาง ไปด้วยครับ
1. เอาเหรียญสามเหรียญ มาเสี่ยงทายหาฉักลักษณ์ แล้วจดฉักลักษณ์ไว้ ถ้ามีเส้นเปลี่ยนก็ให้เปลี่ยนเส้นเป็นฉักลักษณ์เปลี่ยน แล้วจดไว้ข้างกันด้วยนะครับ ตัวอย่างสมมุติได้ฉักลักษณ์ตามภาพล่างนะครับ เป็นฉักลักษณ์ที่ 38 ปฏิปักษ์ เปลี่ยนเป็นฉักลักษณ์ที่ 10 ก้าวย่าง ครับ
1. ฉักลักษณ์ที่ได้จากการโยนเหรียญ |
2. ทำการหาวิหารของฉักลักษณ์ต้นที่ได้ว่าอยู่ในวิหารใด ซึ่งเราจะได้ธาตุของวิหารนั้นๆด้วย จากนั้นหาว่าฉักลักษณ์นั้นเป็นฉักลักษณ์ชนิดใดในแปดวิหารถ้าหากว่าฉักลักษณ์ที่ได้นั้นเป็นวิญญาณหวนและวิญญาณท่องให้จดไว้เป็นกรณีพิเศษด้วย ในกรณีนี้เราจะหาเส้นภพได้ในเวลาเดียวกัน จากนั้นให้จดชื่อวิหารไว้ พร้อมกับใส่เส้นภพกับเส้นสัมพัทธ์ลงไปด้วย ดังตัวอย่างจะได้ว่าฉักลักษณ์อยู่วิหารเกิ้น/ภูเขา ธาตุดิน ฉักลักษณ์ภพที่สี่ดังนั้นเส้นภพอยู่เส้นที่4 เส้นเส้นสัมพัทธ์จะอยู่เส้นแรก
2.กำหนดวิหารและเส้นภพ-เส้นสัมพัทธ์ |
3. หาตำแหน่งกิ่งดิน(ราศีดิน)ในแต่ละเส้นของฉักลักษณ์ โดยใส่ทั้งในฉักลักษณ์ต้นและฉักลักษณ์เปลี่ยน พร้อมทั้งใส่ธาตุของกิ่งดินแต่ละตัวไว้ด้วย ส่วนต้นฟ้าหรือราศีฟ้านั้นไม่ต้องใส่ครับ ประเด็นคือเนื่องจากว่าตามหลักวิชาแล้วจะใช้แค่กิ่งดินในการหาตำแหน่งญาติทั้งหกเท่านั้น ดังนั้นต้นฟ้าจึงไม่ต้องใช้ นอกจากพวกพยายามสร้างภาพลวงตาให้วิชาตัวเองดูดีนั่นแหละครับถึงใส่ต้นฟ้าเข้าไปด้วย (รูปล่างผมขอแยกส่วนระหว่างภาษาจีนกับแปลไทยนะครับ ไม่งั้นมันจะแออัดไปครับ)
3. ใส่กิ่งดิน(ราศีดิน)และธาตุ |
4. เทียบธาตุของเส้นกับธาตุของต้นวิหารกับทั้งฉักลักษณ์ต้นและฉักลักษณ์เปลี่ยน แล้วกำหนดตำแหน่งญาติทั้งหกออกมา(สำหรับฉักลักษณ์เปลี่นนั้นให้เทียบกับต้นวิหารที่หาได้จากฉักลักษณ์ต้นเลยครับ ไม่ต้องหาต้นวิหารของฉักลักษณ์เปลี่ยนอีกครั้งครับ) จากนั้นใส่ตำแหน่งญาติทั้งหกลงไปให้ครบ (รูปล่างผมขอแยกส่วนระหว่างภาษาจีนกับแปลไทยนะครับ ไม่งั้นมันจะแออัดไปครับ)
5. ใส่ตำแหน่งญาติทั้งหก |
5. เกือบสุดท้าย จดวันเดือนปีและเวลาที่ตั้งฉักลักษณ์ทำนายไว้ด้วย โดยวันเดือนปีที่ใช้จะเป็นแบบระบบต้นฟ้า-กิ่งดิน(ราศีฟ้า-ราศีดิน) ซึ่งเปิดดูได้จากปฏิทินจีนทั่วไปหรือปฏิทินน่ำเอี๊ยงก็ได้ครับ
เสร็จละครับ ซึ่งในรูปผมจะลงทั้งส่วนภาษาจีนและส่วนที่แปลภาษาไทยให้นะครับ แต่หลังจากผมพยายามแล้วผมพบว่าถ้าทุกครั้งผมต้องมานั่งแปลรูปอย่างนี้ ผมตายแน่ครับ (╥﹏╥) ดังนั้นบทหน้าผมจะขอสรุปตัวอักษรจีนที่ต้องใส่ในฉักลักษณ์ให้อ่านกันอีกรอบครับ และต่อไปในรูปผมจะคงอักษรจีนไว้ แต่จะอธิบายด้วยภาษาไทยที่แปลแล้วเอานะครับ จะได้อัพเดทกันได้ไวขึ้นครับ